หน้าแรก
พระพุทธเจ้า
เสียงธรรมบรรยาย
(เว็บบอร์ด) forum
สารบัญเว็บไทย
คำสอนหลวงพ่อพุธ
รวมรูปภาพ
Guestbook
ชม Video โอลิมปิก  ปักกิ่ง 2008 (Beijing 2008  Olympic Games)
อ่านมิลินทปัญหา คลิกที่นี่
อ่านจตุคามรามเทพ  คลิกที่นี่
อ่านฐานิโยธรรม  คลิกที่นี่
อ่านฮาธรรมะ พระพยอม  คลิกที่นี่
ขอต้อนรับสู่ โรงแรมเดอะริช
การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่จังหวัดนครราชสีมา
เชิญชม การ์ตูนแอนนิเมชั่น  เสี้ยวลิ้มยี่  (The Legend of Shaolin Kung Fu)
เชิญชม VDO น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ
เชิญชม ประวัติศาสตร์การเมือง ตอน ปิดตำนานทักษิณ
เจ้าแม่กวนอิม
ชมตัวอย่างภาพยนตร์,หนัง
ฐานิยปูชา ๒๕๕๔
ฐานิยปูชา ๒๕๕๒
ฐานิยปูชา ๒๕๕๑
คลังเก็บรูปภาพ

สมาธิไม่ใช่เรื่องไกลตัว


หลวงพ่อพุธ  ฐานิโย

พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)



สมาธิคือความมีสติรู้ตัวตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะขยับไปทางไหน เอาสติเป็นจุดยืน

เราตั้งใจฝึก ทีแรกมันอาจจะฝืนธรรมชาติของความเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้หน่อย แต่เราพยายามฝึกไปๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เป็นไปเอง เราจะตั้งใจก็ตาม ไม่ได้ตั้งใจก็ตาม มันก็มีพร้อม สติคือความรู้เตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์และสิ่งแวดล้อมต่างๆ บางทีนอนหลับไปแล้ว มันก็ยังรู้สึกตัวอยู่ แต่มันรู้สึกเฉพาะภายในจิต เรื่องข้างนอกนี่มันไม่รับรู้

คนทำสมาธิเก่ง สมาธิมั่นคง สติเข้มแข็ง จะนอนไม่หลับตลอดชีวิต เพราะพอหลับลงไปแล้ว จิตเข้าสมาธิ มันก็รู้เฉพาะภายในจิต บางทีอารมณ์อันใดค้างอยู่ เราแก้ปัญหาไม่ตก มันจะวิ่งเข้าไปเป็นอารมณ์ จิตจะทำหน้าที่แก้ไขปัญหานั้นๆ ซึ่งจะมีลักษณะเสมือนหนึ่งว่านอนหลับแล้วฝันไป แต่ว่าแก้ปัญหาได้
อันนี้เป็นเรื่องของสมาธิทั้งนั้น

ถ้าเราเป็นคนช่างสังเกต เราจะรู้สึกว่าเรามีสมาธิอยู่ตลอดเวลา คนที่เคยผ่านการปฏิบัติสมาธิมาแล้วนี่ คือคนที่เรียนจบปริญญามาแล้ว แต่เมื่อมาเจอพระเข้า พระถามว่า "นั่งสมาธิเป็น ไหม" เราไม่ได้นั่งสมาธิแบบที่พระท่านเทศน์สอนเรา เราก็ปฏิเสธว่าไม่เคยนั่งสมาธิ แต่แท้ที่จริง พวกเราทำสมาธิมาแล้ว แล้วพระผู้ที่ท่านสอนสมาธิ ท่านก็ไม่ยอมรับว่าเราปฏิบัติสมาธิ เพราะสมาธิของท่านมีแต่ พุทโธ สัมมาอรหัง ยุบหนอ-พองหนอ เท่านั้น แต่ใครจะไปเอาอารมณ์อย่างอื่นนี่ ท่านไม่รับผิดชอบ

คนเรานี่มีเรื่องชีวิตประจำวัน มีการทำ การพูด การคิด ทำ พูด คิด ถ้าเราฝึกสติให้รู้ตามสิ่งที่เราทำ เราพูด เราคิด อยู่ตลอดเวลา เราได้ปฏิบัติสมาธิอยู่ตลอดเวลา แม้ในคัมภีร์ พระไตรปิฎกก็มีหลักฐานอ้างอิง

คนทอหูกนั่งทอหูกอยู่ทั้งวัน กำหนดสติตามรู้ๆๆๆ ไป พอ ทอหูกเสร็จ สอดกระสวยอันสุดท้าย การทอหูกจบลง เขาก็ได้ ความคิดขึ้นมาว่า การทอหูกยังมีจุดจบได้ ชีวิตของเราก็มีวันที่จะต้องสิ้นสุดเหมือนกัน มันเริ่มต้น แล้วก็ทรงอยู่ ในที่สุดก็แตก ได้ ปัญญาเพียงแค่นี้ ได้สำเร็จอรหันต์

แล้วเรื่องอื่นๆ ก็ยังมีอีก ช่างปั้นหม้อเอาดินเหนียวมา หลอมให้มันเข้ากันดีแล้วมาปั้นหม้อ ตกแต่งเสร็จแล้วก็มาเล็งดู ตรวจสอบว่ามันบกพร่องตรงไหน แล้วก็ได้ความคิดขึ้นมาว่า ดิน เหนียวๆ เราเอามาตกแต่ง เป็นรูปเป็นทรงขึ้นมา เป็นภาชนะ มัน ก็ยังมีลักษณะสวยงาม เป็นที่ถูกใจเราได้ กาย วาจา และใจเรานี่ เราจะแต่งให้มันดีไม่ได้หรือ คิดเพียงแค่นั้น ใจวูบไป ได้สำเร็จเป็น อรหันต์

เพราะฉะนั้น เมื่อกล่าวโดยสรุป ถ้าใครจะถามว่า อยาก ปฏิบัติสมาธิทำอย่างไร

คำตอบก็คือว่า ปฏิบัติสมาธิ คือ ทำจิตให้มีอารมณ์สิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก จะเป็นอะไรก็ได้ ยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด เป็นอารมณ์จิต เราฝึกสติตามรู้กับสิ่งเหล่านี้ ในที่สุด เราก็ต้องได้สมาธิ ได้สติ ได้ปัญญา





ไปข้างบน