ทำความเข้าใจเรื่องสมาธิ
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
หลวงปู่มหาบัวเทศน์ตอนหลัง ชัดเจน ท่านว่า เมื่อก่อนนี้ เรามัวไปดีใจเสียใจกับความเสื่อมความเจริญของสมาธิ มันก็ได้อยู่เพียงแค่นั้น มาภายหลังตัดสินใจ เอ้า! มันจะเสื่อมจะเจริญก็เป็นแค่เพียงแต่อารมณ์จิตเท่านั้น เราจะเอาสติตัวเดียว แล้วในที่สุดมันก็ดำเนินไปด้วยดี
มัวแต่ไปนับขั้นนับตอน (ของสมาธิ) เวลามันเป็นไปจริงๆ มันไม่มีขั้นมีตอน ขั้นตอนนี่เรามาว่าเอาทีหลัง เราจำแบบมาแล้ว อ่านหนังสือแล้วก็ อ้อ! ไอ้นั่นเป็นอย่างนั้นๆ เรามาว่าเอาทีหลัง เวลาจิตมันดำเนินไปตามครรลองของมันนี่ มันไม่มีขั้นมีตอน
เอาเรื่องเด็กน้อยคริสต์กับเด็กน้อยพุทธภาวนาไปเล่าให้พระใหม่ฟัง ชาวคริสต์ภาวนา เยซู ชาวพุทธภาวนา พุทโธ เมื่อจิต สงบเป็นสมาธิมีแนวโน้มเป็นอย่างเดียวกัน คือ จิตนิ่ง รู้ ตื่น สว่าง เบิกบาน มีปีติ มีสุข เหมือนกัน อันนั้นคือสัจธรรม
สมาธิเป็นสัจธรรม มีหนึ่งเดียว ถ้าใครทำสมาธิถึงขั้นแล้ว จะมีแนวโน้มเป็นอย่างเดียวกันหมด มันจะแตกต่างเฉพาะแต่ว่า พอจิตสงบเป็นสมาธิหน่อย พอเกิดนิมิต เริ่มน้อมเอานิมิตเข้ามาในตัว เสร็จแล้วสภาพจิตที่ปลอดโปร่ง สว่างไสว มันก็มืดมิด หัวใจเหมือนถูกบีบ หลังจากนั้นจิตก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง นี่คือความ แตกต่างของสมาธิ ไปเอาอำนาจสิ่งอื่นมาช่วย
มันอาจจะเป็นไปได้ดี อาจจะรู้อาจจะเห็นอะไรได้ดีๆ แต่มันไม่ใช่ความรู้ความเห็น ที่จิตเป็นไปโดยอิสรภาพ มันมีอำนาจดลบันดาลมาให้เป็นไป เช่น อย่างพวกฤษี เขาภาวนาแล้วเขาเอาพระพรหมเป็นหลัก พอภาวนา จิตได้สมาธิ พระพรหมก็ประทานพรให้ ให้เป็นผู้มีฤทธิ์มีเดช
|