ศีล ๕ คือยอดแห่งความดี
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
ด้วยความเมตตาสงสารต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย พระพุทธเจ้าจึงมาตีเส้นตายไว้ว่า ข้อ ๑ อย่าฆ่า ข้อ ๒ อย่าเบียดเบียน ข้อ ๓ อย่าข่มเหง ข้อ ๔ อย่ารังแก ข้อ ๕ อย่าอิจฉาตาร้อน แล้ว ให้ทุกคนนึกเสมอว่า ขอเพื่อนมนุษย์เราจงมีสุขกายสุขใจ อย่าได้ เบียดเบียนซึ่งกันและกัน จงมีสุขรักษาตนให้พ้นภัยทั้งปวงเถิด
อันนี้! เป็นแนวทางของการปฏิบัติ
ในเมื่อเรามาพิจารณาถึงความข้อนี้ เราจะได้ความว่า ถ้าเราสงสัยข้องใจว่าพระพุทธเจ้าสอนธรรมะเราเพื่อประสงค์อะไร ที่ ท่านสอนให้ละบาป ให้ทำดี ให้ชำระจิตให้บริสุทธิ์สะอาด นั่นมัน ลึกซึ้งเกินไป บางทีเราอาจจะไม่เข้าใจ รู้ไม่ถึง
เราทำความเข้าใจเอาง่ายๆ พระพุทธเจ้าสอนธรรมะเรานี่ เพื่อให้เราสร้างความรัก ความเมตตาปรานีต่อกัน
มีอะไรเป็นหลักฐาน มีศีล ๕ ข้อเป็นหลักฐาน กับเมตตาพรหมวิหาร
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เราละกิเลสโดยตรง แต่ให้เรารู้จักใช้กิเลสให้เกิดประโยชน์โดยความเป็นธรรม
เราจะใช้กิเลสให้เกิดประโยชน์โดยความเป็นธรรมได้อย่างไร ศีล ๕ เป็นหลัก
การกระทำสิ่งใด ถ้าไม่ผิดศีล ๕ ข้อใดข้อหนึ่ง ทำลงไป พระพุทธเจ้าไม่ว่า
ถ้าเราเข้าใจกันเสียอย่างนี้ เราจะปฏิบัติธรรมะได้คล่องตัวสบาย
อันนี้ท่านทั้งหลายสอนกัน รักษาศีล ๕ แล้วไปสวรรค์ ไปนิพพาน เผื่อว่าใครเขายังไม่อยากไปล่ะ เขาก็ไม่ปฏิบัติ
รักษาศีล ๕ :
๑. เป็นคุณธรรมประกันความปลอดภัยของสังคม ป้องกัน ไม่ให้มนุษย์เกิดมีการฆ่ากัน
๒. ตัดทอนผลเพิ่มของบาป
๓. บั่นทอนกำลังของกิเลสฝ่ายชั่ว คือ โลภ โกรธ หลง ให้น้อยลงหรือหมดไป
๔. ปรับพื้นฐานความเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์
๕. เป็นขอบเขตของการใช้กิเลสให้เกิดประโยชน์โดยความ เป็นธรรม
๖. เป็นคุณธรรมที่เป็นมูลฐานให้เกิดระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ เพราะว่าหัวใจของประชา-ธิปไตยอยู่ที่การเคารพสิทธิมนุษยชน ผู้มีศีล ๕ เคารพ สิทธิในการดำรงชีพอยู่ของคนอื่น เคารพสิทธิในการ ครอบครองทรัพย์สมบัติ เคารพสิทธิคู่ครองและบุคคล ผู้ต้องห้าม และสิทธิอื่นๆ ครอบจักรวาลไปหมด
เพราะฉะนั้น ยอดแห่งความดีตามคำสอนของพระพุทธเจ้า มีศีล ๕ ข้อเท่านั้น
เพื่อจะให้ศีล ๕ ข้อนี่มั่นคงในจิตในใจ ท่านให้ฝึกสมาธิแล้วก็ให้ใช้ปัญญาพิจารณาดูเหตุผล ให้รู้เหตุผลอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนว่ารักษาศีล ๕ มันได้ประโยชน์อะไรบ้าง
นี่! พื้นฐานที่เราจะต้องทำความเข้าใจ มันอยู่กันที่ตรงนี้
|