ทำบุญกับใครก็ได้อานิสงส์
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
หญิงสาวผู้หนึ่งมากราบเรียนถามหลวงพ่อว่า
"พระที่นำเงินที่ญาติโยมถวายไปเลี้ยงครอบครัว เป็นบาป หรือไม่"
หลวงพ่อตอบว่า
"ถ้าหากว่าเป็นสิทธิของเขา ไม่บาป ถ้าหากว่าเขาเอาไป เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่หรือบุคคลผู้ที่พึ่งพาอาศัยเขา ช่วยเหลือปลดเปลื้อง ทุกข์เพียงชั่วขณะ ถ้าหากว่าตั้งอกตั้งใจที่จะกอบโกยมาพอกพูน ให้กันมั่งมีศรีสุขกันจริงๆ มันก็ผิด... บาป... มันเกินไป"
เธอกราบเรียนต่ออีกว่า "เวลาเห็นพระปฏิบัติไม่ดีแล้ว ไม่ อยากกราบ ไม่อยากใส่บาตรให้"
หลวงพ่อจึงแนะนำว่า
"อันนั้นถือว่าเป็นเรื่องของท่าน เราไม่เกี่ยว เรารักษาความ บริสุทธิ์ของเราดีกว่า
เราเอาอย่างนี้ พลทหารมันแบกธงชัยเฉลิมพลผ่านหน้า นายทหารทุกคนจะต้องตะเบ๊ะ ท่านผู้นี้ถือผ้ากาสาวพัสตร์เป็น เครื่องหมายของพระพุทธเจ้า เราไหว้ผ้ากาสาวพัสตร์ เราใส่บาตร ให้พระให้สงฆ์วัดหนึ่งๆ ถึงแม้ว่าความประพฤติปฏิบัติของท่านจะเป็นอย่างไรก็ตาม แต่ท่านก็เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน เราเอา ผลประโยชน์ที่ตรงนี้ ส่วนความผิดความถูกเป็นเรื่องของท่าน เรา ไม่เกี่ยว เราให้ทาน ใส่บาตรให้ท่าน เราอุทิศถวาย พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ทีนี้พระเจ้าพระสงฆ์ที่รับบิณฑบาตจากเรานี่ ก็เหมือนคนเลี้ยงวัว เลี้ยงช้างกินขี้ช้าง ว่ากันง่ายๆ
เพราะฉะนั้น เราทำบุญให้ทาน เจตนาของเราบริสุทธิ์ ทำกับใครก็ได้บุญ"
หลวงพ่อทำบุญกับหมาขี้เรื้อน วันหนึ่ง ฉันข้าวแล้ว ก็ไปนั่งเช็ดบาตรอยู่ที่ขอนไม้ อยู่วัดป่า ธรรมเนียมของวัดป่า เศษ อาหารนี่ พระฉันเสร็จแล้วขนหนีหมด ท่านกลัวพระเณรจะขโมย กินข้าวเย็น ทีนี้หมาตัวนั้นมันเดินเซซ้ายเซขวามา มันจะล้ม แหล่มิล้มแหล่ มันมาแล้ว มันมามองหน้า เราก็นึกในใจ... โอ้! เจ้าหิวเนาะ ข้าก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่ มีแต่ในท้องนี่แหละ เลยล้วง มือเข้าไปสำรอกออกมาให้มันกิน มันกินอิ่มแล้ว พอหลวงพ่อเดิน กลับกุฏิ มันวิ่งแป๊ดๆๆๆ นำหน้าไปเลย แล้วมันมานอนเฝ้ากุฏิ ให้ทุกวัน จนหนีจากกัน
พอหลังจากนั้นมา หลวงพ่อไปที่ไหนมีแต่คนบังคับให้กิน จะว่าไม่มีอานิสงส์อย่างไร มาอยู่ที่นี่ นั่งอยู่ที่นี่ ก็ไม่รู้จะกินอะไร บางทีบางอย่างก็ยังไม่ได้แตะต้อง มันอิ่มก่อน ไปอยู่แปดริ้วก็เต็ม ... พะเรอเลย
|