พิจารณากายจนใสเป็นแก้ว
ข้อเท็จจริงที่เกิดกับหลวงพ่อเอง หลวงพ่อเดินจงกรมอยู่ พิจารณากายคตาสติ ตามสูตร ท่านให้พิจารณาว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็น ของปฏิกูลน่าเกลียดโสโครก แต่หลวงพ่อไม่เอาอย่างนั้น
พอขึ้นต้น... ผมฉันเกิดอยู่บนศีรษะ ไม่แก่ไม่หงอก ที่เกิดของ ผมเป็นท่อทางระบายสิ่งโสโครกออกจากร่างกาย ผมเป็นเครื่องประดับร่างกายให้ครบถ้วนอาการ ๓๒ ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก ก็พิจารณาไปตามหน้าที่ของแต่ละส่วนๆ จนกระทั่งถึงหัวใจ ...
หัวใจมีหน้าที่สูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกาย ปอดมีหน้าที่หายใจ มี ประโยชน์อย่างนั้นๆ แล้วสรุปลงว่า อวัยวะทุกส่วนในร่างกายของ ฉันมีความแข็งแรงสมบูรณ์ ต่างก็ทำหน้าที่ของตนตามหน้าที่ ไม่ ขาดตกบกพร่อง ทำให้สุขภาพร่างกายของฉันแข็งแรงสมบูรณ์
พิจารณาไปๆ จิตมันแยกเป็น ๓ มิติ มิติหนึ่งพิจารณาเอง อีกมิติหนึ่งจ้องมองดูอยู่ อีกมิติหนึ่งมาเฉยอยู่ในท่ามกลางของร่างกาย อันนี้เป็นปรากฏการณ์เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตปฏิบัติธรรม
แต่ว่าจิตไปถึงจุดที่ว่าร่างกายตัวตนไม่มีนี่ นับไม่ได้ว่า กี่ครั้งกี่หน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมัยที่ป่วยเป็นวัณโรคอยู่ ทำสมาธิ แต่ละครั้งต้องพยายาม หนึ่ง...ให้มองเห็นปอด สอง...ให้ร่างกายหาย เพราะอาศัยปฏิบัติอย่างนี้ วัณโรคก็หาย
แล้วเราก็ได้ข้อมูลอันหนึ่งขึ้นมาว่า ทำไมกระดูกพระอรหันต์ กระดูกพระพุทธเจ้า เมื่อท่านนิพพานไปแล้ว กระดูกจึงเป็นพระธาตุ เพราะจิตที่สงบ มีพลัง แล้วมันเข้ามาสำรวจดูภายในกาย มองไปที่ไหน
มองเห็นเนื้อสีแดงๆ มันก็แดงแบบชนิดแก้วใสสีแดง มอง เห็นกระดูกก็เป็นแก้วไปหมด มองเห็นอะไรเป็นแก้วไปหมดทั้งตัว จึงมาได้ข้อมูลว่า อ้อ... เพราะอย่างนี้ พระอรหันต์นิพพานไปแล้ว กระดูกท่านจึงเป็นพระธาตุได้
|