ทำความเข้าใจเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
ถ้าคนไม่รู้เรื่องก็หาว่า หลวงพ่อนี่ อะไร! พูดแหวกแนวอะไรต่ออะไร ว่ากันไป เขาทั้งหลายว่าสมาธิขั้นสมถะไม่เกิดภูมิความรู้ ในประเทศไทยมีหลวงพ่อองค์เดียวยืนยันว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้ขณะที่จิตอยู่ในสมาธิขั้นสมถะ และพระพุทธเจ้าตรัสรู้เป็นโลกวิทู
รู้แจ้งโลก ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ พระองค์ตรัสรู้ในขณะจิตเดียวตั้งแต่หัวค่ำ
ทีนี้เมื่อจิตถอนจากสมาธิมาแล้ว จิตของพระองค์จึงปฏิวัติไปพิจารณาทบทวนเรื่องการระลึกชาติหนหลังได้ จบลงในปฐมยาม
พิจารณาทบทวนเรื่องความแตกต่างของสัตว์ทั้งหลาย การจุติและเกิดของสัตว์ทั้งหลาย มีภพภูมิต่างๆ กันตามกฎของกรรมจบลงในมัชฌิมยาม
แล้วก็พิจารณาอาสวกิเลสอันเป็นเหตุให้สัตว์ทำกรรมคืออวิชชา ความรู้ไม่จริง จบลงในปัจฉิมยาม
ช่วงนี้เรียกว่า เจริญวิปัสสนา
พอเจริญวิปัสสนาจบ จิตยอมรับสภาพความจริง อรหัตตมัคคญาณบังเกิดขึ้น ตัดกิเลสอาสวะขาดสะบั้นไปในปัจฉิมยาม จึงได้พระนามว่า อรหัง สัมมาสัมพุทโธ ภควา พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระอรหันต์ ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ตรัสรู้ตั้งแต่หัวค่ำ เป็นอรหันต์เมื่อจวนสว่าง
นักศึกษาธรรมะทั้งหลายนี่เข้าใจว่าพอตรัสรู้แล้วก็เป็นพระอรหันต์เลย ไม่ถูกต้อง
แล้วอีกอันหนึ่ง ที่พุทธประวัติเขียนไว้ว่า พระพุทธเจ้าเข้าสมาธิทำจิตให้บริสุทธิ์ผุดผ่องแล้วน้อมไปพิจารณาปุพเพนิวาสานุสสติญาณ มันผิดทั้งเพ จิตอยู่ในสมาธินี่ ไม่มีใครจะน้อมไปทำอะไรได้ นอกจากจิตจะปฏิวัติตัวเอง ขืนน้อมสิ สมาธิมันก็ถอน
|