ภาวนาแบบไหนก็ได้ผลถ้าทำจริง
หลักและวิธีการปฏิบัติสมาธิที่เราควรจะยึดถือเป็นหลักปฏิบัติ เราจะเริ่มต้นด้วยการไหว้พระสวดมนต์ อย่างทำวัตรเช้า-วัตรเย็น ที่ เราทำกันอยู่นี่แหละ เวลานั่งสมาธิก็ภาวนา พุทโธๆๆๆ หรือท่าน ผู้ใดอาจจะเคยศึกษาแบบปฏิบัติสมาธิมาจากสำนักใดที่ตนเคยปฏิบัติอยู่ ก็เอาแบบนั้น
ไม่ต้องมาเปลี่ยนเป็น พุทโธ เช่นอย่างเคยภาวนา ยุบหนอ-พองหนอ ก็ยุบหนอ-พองหนอเรื่อยไป ใครภาวนา สัมมา-อรหัง ก็สัมมาอรหังเรื่อยไป ใครภาวนาพุทโธ ก็พุทโธเรื่อยไป ถ้า ใครเคยกำหนดสติรู้จิตของตนเองโดยไม่ต้องภาวนาอะไร คอยจ้อง ดูแต่ความคิดที่เกิดขึ้นเท่านั้น เมื่อความคิดเกิดขึ้นมาก็กำหนดสติ ตามรู้ไป หรือใครเคยกำหนดลมหายใจเข้า-หายใจออก ก็กำหนดรู้ไป
ไม่ต้องไปสำคัญมั่นหมายว่าเราจะต้องเปลี่ยนไปภาวนาแบบนั้นแบบนี้
ทุกแบบที่เป็นวิธีการภาวนานี่ ถ้าเราทำจริงมันได้ผลเท่าเทียมกันหมด ไม่มีแตกต่าง ใครจะภาวนา พุทโธ สัมมาอรหัง ยุบหนอ-พองหนอ เมื่อจิตสงบลงเป็นสมาธิ นิ่ง สว่าง รู้ ตื่น เบิกบาน
เหมือนกันหมด เพราะสมาธิเป็นสัจธรรม มีหนึ่งเดียว ในเมื่อสมาธิมันเกิดขึ้น มันจะมีแนวโน้มเป็นอย่างเดียวกันหมด คือ
หนึ่ง... เมื่อจิตสงบ นิ่ง สว่าง มันจะสงบละเอียดๆๆ ลงไป จนกระทั่งตัวหาย
อีกอย่างหนึ่ง พอสงบลงไปนิดหน่อย ความคิดมันจะผุดขึ้นมา ฟุ้งๆๆ ขึ้นมาอย่างกับน้ำพุ
อันนี้ มันจะมีทางไปอย่างนี้
|