สติปัญญาพาให้พ้นจากการควบคุมของกฎธรรมชาติ
สิ่งที่เราเป็นอยู่ ประสบการณ์อยู่ ทุกวัน ทุกลมหายใจนี่ มัน เป็นธรรมชาติและกฎของธรรมชาติ จิตวิญญาณของเราถูกธรรมชาติ และกฎธรรมชาติควบคุมอยู่ ถ้าตราบใดสติปัญญาอ่อน จะถูกธรรมชาติ ปิดบังเอาไว้ไม่ให้รู้ความจริง
เช่นอย่างธรรมชาติของมนุษย์ทั้งหลายนี่ จะต้องมีครอบครัว มีผัวมีเมีย อันนี้คือธรรมชาติที่ปิดบังเอาไว้อยู่ ถ้าเรารู้แจ้งเห็นจริง แล้ว การครองเรือน การมีครอบครัว ก็ไม่เห็นจะมีความจำเป็นอะไร ถึงแม้ว่าเราไม่มีครอบมีครัว มนุษย์ก็ไม่สูญพันธุ์ไปจากโลก เพราะว่าคนอื่นเขายังสืบพันธุ์กันอยู่ มันก็จะไปของมันอย่างนี้ แล้วแต่ภูมิปัญญาของใคร
เมื่อก่อนนี้พลเมืองในประเทศไทยมีจำนวนน้อย ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๖๐ มาถึง พ.ศ. ๒๔๗๐ พลเมืองในประเทศไทยมีอยู่ ๑๐ ล้านคน จาก พ.ศ. ๒๔๗๐ ถึง พ.ศ. ๒๔๘๐ เพิ่มขึ้นเป็น ๒๐ ล้านคน ใน สมัยที่พลเมืองไทยยังน้อยอยู่ คนทั้งหลายเขามาว่าหลวงพ่อ หลวงพ่อ บวชมาตัดทอนพลเมืองของประเทศ บวชไม่สึก ตัดทอนพลเมือง ของประเทศ ตัดทอนผลผลิตของชาติ เราก็ได้แต่นั่งอมขี้ฟัน เถียง เขาไม่เป็น
ทีนี้ พอเราโตขึ้นมาแล้ว เรารู้สถานการณ์และสิ่งแวดล้อม ความเป็นไปของประเทศและสังคม คนที่เขาผลิตมนุษย์ขึ้นมานี่ ตัว เขาเองก็ไม่มีปัญญาเลี้ยง ต้องให้คนอื่นช่วยเลี้ยงบ้าง เป็นภาระของ รัฐบาลบ้าง ทีนี้พอใครมาว่า พวกเรานี่ตัดทอนพลเมือง เราก็ด่าคืน เราก็บอกว่า "มันดีแล้ว ที่ฉันไม่ไปทำให้คนเขาเกิดมาเป็นภาระแก่รัฐบาล ฉันตัดทอนค่าใช้จ่ายรัฐบาลที่จะต้องจ่ายมาบำรุงพวกเรา ฉันบวชเป็นพระ ฉันเป็นพระดัง ฉันก็หาเงินช่วยรัฐบาลอยู่แล้ว มี ใครทำได้อย่างฉันบ้าง"
|