เราทุกคนเป็นวงศ์วานกันทั้งสิ้น
พระองค์หนึ่งไปพบยายแก่เศรษฐีนี เข้าไปทักว่า
เราเป็นแม่เป็นลูกกันมาหลายภพหลายชาติแล้ว มาชาตินี้ ตามหาโยมแม่อยู่ตั้ง ๑๐ ปี เพิ่งจะมาเจอเดี๋ยวนี้เอง
แค่นี้มันก็ฟ้องแล้ว ชาติก่อนชาติไหนยังรู้ได้ ชาตินี้ใช้เวลา ตามหาตั้ง ๑๐ ปี โกหกหรือเปล่า เพราะฉะนั้น พวกนี้จึงต้องประสบ กับความวิบัติ
พระพุทธเจ้าเคยเทศน์ไว้ สัตว์ในโลกนี้ที่ไม่เคยเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นลูก เป็นญาติ เป็นวงศ์วานกันนี่ ไม่มีเลย เพราะว่าเราเกิดมาหลาย ภพหลายชาติ ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้วที่เราเกิดมานี่ กว่าจะได้มาพบ ศาสนาของพระพุทธเจ้า
ชั่วระยะเวลาระหว่างศาสนาต่อศาสนานี่ หลังจาก ๕,๐๐๐ ปี ล่วงไปแล้ว คนจะทำบาปทำกรรม อายุน้อยลงๆๆๆ จนเหลืออายุขัย ๕ ปี ไฟประลัยกัลป์จะไหม้โลก น้ำจะท่วมโลก มนุษย์และสัตว์ทั้ง หลายพากันตายเกลื่อนกลาด แล้วยังเหลือมนุษย์ที่เดนตายอยู่ไม่กี่ คนที่ไปหลบซ่อนอยู่ในหุบเขา ในป่าในดง
ทีนี้มนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้น พอมองเห็นว่า สัตว์โลกมัน ฉิบหายวายป่วงเพราะการทำบาปทำกรรม เขาจะได้สำนึก เขาจะสร้างความดีขึ้นมา อายุขัย ๕ ปี เลื่อนขึ้นมา ๑๐ ปี ๒๐ ปี ๓๐ ปี ๑๐๐ ปี ๑,๐๐๐ ปี ๑๐,๐๐๐ ปี ๑๐๐,๐๐๐ ปี กว่ามนุษย์จะเจริญขึ้น ไป ถึง ๑๐๐,๐๐๐ ปีนี่ ร่างจะใหญ่ขึ้น มันไม่รู้กี่กัปกี่กัลป์
พอไปถึง ๑๐๐,๐๐๐ ปี มนุษย์เกิดความประมาท พากันทำบาป ทำกรรม อายุก็ลดน้อยลงมาๆ เหลืออยู่ ๘๐,๐๐๐ ปี พระศรีอาริย์จึง จะมาตรัสรู้
นี่ ระยะกาลพระพุทธเจ้าแต่ละองค์นี่มันนานแค่ไหน กัปหนึ่ง มีคำกล่าวเปรียบเทียบไว้ว่า ถึงวัน ๑๕ ค่ำ เทวดาเอาผ้าละเอียดอ่อน เหมือนสำลีมาปัดยอดเขาพระสุเมรุ จนกระทั่งมันราบลงเสมอกับ พื้นดิน นั่นแหละคือกัปหนึ่ง
|