ถ้ายังไม่รู้แจ้งเห็นจริง ให้เชื่อพระพุทธเจ้าไว้ก่อน
ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ ประโยชน์ในปัจจุบัน คือในชั่วชีวิต นี้
สัมปรายิกัตถประโยชน์ ประโยชน์ในภพหน้า คือสร้างบุญ สร้างกุศลเพื่อสวรรค์
ปรมัตถประโยชน์ ประโยชน์อย่างยิ่ง คือพระนิพพาน บำเพ็ญเพียรภาวนาเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพาน
ท่านวางหลักเกณฑ์ของท่านไว้อย่างนี้ แต่เราไม่เข้าใจคำสอนของท่านเอง ที่ว่าไม่เข้าใจคำสอน นั่นก็เพราะว่ายังมีคนกล่าว ประณามพระองค์ว่า สอนคนให้สันโดษมักน้อย ไปกล่าวตู่ว่าสอนให้งอมืองอเท้า ให้ขี้เกียจขี้คร้าน
แต่แท้ที่จริงเราไม่เข้าใจคำสอน ของพระองค์ต่างหาก
สิ่งใดที่พระองค์สอนมานี่ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ เป็นหลักฐานในคำสอนของพระองค์
พระองค์รู้เรื่องอดีตชาติของพระองค์ พระองค์เคยเกิดเป็นอะไร เพราะบุญกรรมอะไร ทำบาปสิ่งนี้ ตายแล้วตกนรก พระองค์เคยทำสิ่งนี้ ตายแล้วไปนรกมาก่อนเราแล้ว ทำบุญสิ่งนี้ ตายแล้วขึ้นสวรรค์ พระองค์เคยทำบุญสิ่งนี้
ตายแล้วขึ้นสวรรค์มาก่อนเรา บำเพ็ญตบะ บำเพ็ญฌาน สำเร็จฌานสมาบัติ ตายแล้วไปเกิดเป็นพระพรหมในพรหมโลก ทั้ง ๓ อย่างนี้พระองค์ได้ปฏิบัติมาแล้ว ได้ลองของมาแล้ว ไฟนรกมันร้อน พระองค์เคยเอาเท้าไปแหย่มา แล้ว สวรรค์มันเยือกเย็น พระองค์ก็เคยสัมผัสกับสวรรค์มาแล้ว
เพราะฉะนั้น คำสอน ของพระองค์นี่ สิ่งที่เป็นบาปเป็นบุญ มันเป็นสิ่งที่พระองค์ได้ลองของมาแล้วทั้งนั้น
คำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ชนิดที่ว่านอนหลับแล้วฝันไป ตื่นขึ้นมาแล้วเทศน์สอนคน ไม่ใช่อย่างนั้น มันเป็นสิ่งที่พระองค์ได้ทดสอบมาด้วยพระองค์เอง
เพราะฉะนั้น ใครยังไม่รู้แจ้งเห็นจริง เชื่อพระองค์เอาไว้ก่อน รับฟังเอาไว้ อย่าไปหัดลองของเหมือนพระ องค์ ลองแล้วอย่างเราๆ นี่ ไม่รู้หรอก เชื่อพระองค์ว่าพระองค์เคยลองมาแล้วทดสอบมาแล้วทุกอย่าง
|