อายตนะ ไม่ใช่อารมณ์
การเข้ากระแสแต่ละขั้นนี่ หมายถึงว่า จิตของเราเข้าถึงจุดๆ หนึ่ง แม้จะมีอารมณ์เกิด-ดับให้ปรากฏเห็นอยู่ แต่จิตไม่ได้หวั่นไหว ต่ออารมณ์นั้น เป็นกลางโดยเที่ยงธรรม ไม่มีอคติลำเอียงว่า อะไรดี อะไรเสีย
เพราะฉะนั้น เมื่อเรามองเห็นธรรมะ ตามความเป็นจริงแล้ว มันไม่มีอะไรดี ไม่มีอะไรเสีย มีแต่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นกลางๆ ทั้งนั้น
ที่ท่านว่า อายตนะภายใน ๖ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ เป็นอายตนะภายใน ที่เรียกว่า อายตนะ ก็เพราะว่ามันเป็นเครื่องมือสื่อสารสำหรับติดต่อกับโลก ภายนอก
สิ่งที่เรามองเห็นและสัมผัส รู้ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ท่านว่า อารมณ์
แต่ความจริงมันไม่ใช่อารมณ์ มันเป็นเพียงเหตุปัจจัยให้เกิดอารมณ์
อารมณ์ คือ ความยินดี ความยินร้าย พอใจ ไม่พอใจ อันนี้ เรียกว่า อารมณ์
หลวงพ่อไปได้ความชัดจากการอ่านหนังสือเรื่องหนึ่ง หนังสือเริงรมย์ที่เขาขายให้กันอ่านนี่ อ่านไปก็สนุกไปๆ พอไปถึงจุดๆ หนึ่ง ไอ้เจ้าสาวมันไปหลงเจ้าหนุ่ม มันก็ยอมมอบกายถวายชีวิตให้เจ้าหนุ่ม ทุกอย่าง เสร็จแล้วมันไปยั่วยุให้เกิดอารมณ์
เจ้าหนุ่มบอกว่า “อย่ามายุ่ง เวลานี้ฉันยังไม่มีอารมณ์”
จึงไปได้ความว่า อ๋อ! ไอ้ตัวเจ้าสาวนี่มันมายั่วยุเจ้าบ่าว มันก็คือรูป แล้วก็คือเสียง มันมารุกเร้า แต่เจ้าหนุ่มมันบอกว่า “อย่า ฉันยังไม่มีอารมณ์” เพราะ เขายังไม่มีความยินดี ไม่มีความพอใจที่จะร่วมสุขร่วมทุกข์กัน ก็เลยมาได้ความว่า อ้อ! รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ มันไม่ใช่อารมณ์ เป็นแต่เพียงเหตุปัจจัยให้เกิดอารมณ์
|