สัมมาสมาธินำไปสู่ การรู้ธรรมเห็นธรรม
สัมมาสมาธิของพระพุทธเจ้า การปฏิบัติเพื่อมุ่งให้จิตสงบ เป็นสมาธิ มีสติปัญญารู้ธรรมเห็นธรรมตามความเป็นจริง ตามแนวคำสอนของพระพุทธเจ้า
การรู้ธรรมเห็นธรรมนี่ รู้เห็นอย่างไร
การรู้ธรรมเห็นธรรมนี่ เราจะสังเกตได้ง่ายๆ เช่นอย่างสมมติว่าจิตของเรามันนึกถึงสิ่งที่เราเคยทำผิด ทำความเดือดร้อนให้แก่ใครต่อใครมา พอมานึกถึง แล้วก็ได้ความรู้สึกขึ้นมาว่า สิ่งนี้มันไม่ดี เราเคยทำแล้ว ต่อมาเราไม่ควรทำอีก
อันนี้คือลักษณะ การรู้ธรรมเห็นธรรม คือรู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันผิด เมื่อมันผิด จิตก็ยอมรับ พอยอมรับ จิตก็สอนตัวเองว่า เราไม่ควรทำซ้ำอีก
แต่การรู้ธรรมเห็นธรรมในระดับอริยมรรคอริยผล ท่านว่ารู้เห็น อริยสัจ ๔ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค รู้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา รู้ว่าสรีรยนต์สกนธ์กายของเรานี่เป็นของปฏิกูลน่าเกลียด รู้ว่าเราจะต้องแก่ ต้องเจ็บ ต้องตาย จิตมันยอมรับ อันนี้ก็รู้ธรรมเห็นธรรม
เพราะฉะนั้น ที่แน่ ๆ ที่สุดที่ควรจะสังเกตก็คือ เมื่อจิตมันปรุงแต่งไป มันนึกถึงสิ่งที่เคยทำผิดต่อพ่อต่อแม่ ต่อครูบาอาจารย์ ต่อบ้านต่อเมือง แล้วมันสำนึกได้ว่ามันเป็นความผิด มันยอมรับ แล้วมันก็เตือนตัวเองว่า ต่อไปท่านไม่ควรทำอย่างนี้
ยกตัวอย่างเช่น นายตำรวจท่านหนึ่งไปบวชกับหลวงพ่ออยู่ที่วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินฯ จังหวัดอุบลฯ ที่วัดนั้นถือหลักการปฏิบัติสมาธิเหมือนกับของเรานี่แหละ พอแกบวชมาแล้ว ก็พาแกนั่งสมาธิ พอจิตสงบได้สมาธิแล้ว แกก็ได้ความรู้สึกขึ้นมาว่า เมื่อก่อนนี้เราคิดแต่จะฉ้อจะโกง
ช่องโหว่ที่จะทำให้เราฉ้อโกงรีดไถได้มันมีถมเถไป พอเรามาปฏิบัติสมาธิแล้วความรู้สึกอยากจะทำเช่นนั้น มันไม่มี อันนี้ก็เพราะจิตมันรู้จริงว่าสิ่งที่ทำมาแล้วมันผิด แล้วมันก็ยอมรับความจริง เมื่อมันยอมรับความจริงแล้ว มันก็ไม่ประพฤติชั่วเช่นนั้นอีก
อันนี้คือลักษณะของการรู้ธรรมเห็นธรรม
|