อย่าเถียงกันเรื่องสมาธิ
ในคัมภีร์นี่ท่านกล่าวหลักฐานอ้างเอาไว้หมด ซึ่งมาพิจารณาดูแล้วนักปฏิบัติในปัจจุบันไม่น่าจะเถียงกัน
ช่างทอหูก ฝึกสติทอหูกเสร็จได้สำเร็จอรหันต์
ช่างปั้นหม้อ ฝึกสติไปกับการปั้นหม้อ ปั้นหม้อเสร็จได้สำเร็จอรหันต์
ช่างถากไม้ พอถากไม้เสร็จ ได้สำเร็จอรหันต์
มันก็มีตัวอย่างอยู่ถมเถไป
ทีนี้หลวงพ่อหลวงพี่สมัยนี้มาเถียงกัน พุทโธ สัมมาอรหัง ยุบหนอ-พองหนอ อยู่นี่ มันไปไม่ถึงไหนหรอก หลวงพ่อจึงกล้ากล่าวได้ว่า ถ้าหากว่านักสมาธิคนใดยังไปตำหนิโจมตีลัทธิของคนอื่น แสดงว่าภาวนาไม่เป็น
โดยหลักธรรมชาติของการปฏิบัติสมาธิ คือ ทำจิตให้มีสิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก จะเป็นอะไรก็ได้ เราไปทำมาค้าขาย เรามีสติ ไปสอนเด็ก เรามีสติ
เคยสังเกตไหม เวลาเราไปพูด เริ่มต้นพูดทีแรก ทีแรกเราใช้ความคิดใช่ไหมล่ะ บางทีเราก็อาจจะชะลอเวลาด้วยการครางออกมา “ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย.. เอ่อ.. ข้าพเจ้าจะ.. เอ่อ.. ปาฐกถาเรื่อง.. เอ่อ” อันนี้คือชะลอเวลาใช้ความคิด ทีนี้พอสำรวมจิตพูดไปๆๆๆ
สมาธิมันเกิด หลังจากนั้นไม่มี “เอ่อ” แล้ว พอพูดจบประโยคนี้ปั๊บ ประโยคใหม่มันขึ้นมาแทน นั่นคือสมาธิ แล้วมันเป็นสมาธิปัญญาด้วย
|