จับเณรสึกครั้งใหญ่
คราวนั้นหลวงพ่อสั่งเณรสึกไป ๓๐ องค์ จะไม่สึกอย่างไร พอตกกลางคืนมา มันไปสนามหน้าโรงเรียน ให้เด็กไปซื้อก๋วยเตี๋ยว บ้าง อะไรบ้าง มาให้กิน
ที่หลวงพ่อจะเอา หลวงพ่อก็ถาม ถามเณรอยู่ในกุฏิ
“เณร เลิกกินข้าวเย็นหรือยัง”
“ผมเลิกแล้วครับ”
“อ้าว! ฉันถามว่าแกเลิกกินข้าวเย็นหรือยัง แกตอบว่าแกเลิกแล้ว ก็แสดงว่าแกเคยกินข้าวเย็น มีใครบ้าง” เอากระดาษให้จดชื่อเลย ได้ ๓๐ เณร
พอวันหลังก็เรียกมาประชุมเลย สั่งคำเดียวเลย
“พวกเธอ ลาสิกขาบทได้แล้ว”
ทีนี้พวกพระที่เป็นหัวหน้ามันก็พากันโกรธเคือง พอหลวงพ่อย้ายมาที่โคราช กลับไป (ที่ศรีสะเกษ) อีกที เณรไม่เหลือสักองค์ ถามอาจารย์มหานวย “อ้าว ทำไมเณรไปไหนหมด ท่านอาจารย์”
“ข้าจับมันสึกหมด เจ้าคุณน่ะทำไม่เด็ดขาด ยังเหลือมันไว้อยู่”
พระในกุฏิหลวงปู่ใหญ่ (หลวงปู่ศรี) โดนสึกไป ๒ องค์ พอไปกราบ “มหาต่วนมันจับพระข้าสึกหมด” “เพราะอะ ไรล่ะ หลวงปู่” “มันไปขโมยกินข้าวเย็น”
“ก็สมควรแล้ว หลวงปู่ อย่าไปเสียใจ ถ้าไม่มีใครดูแล ผมจะมาปรนนิบัติหลวงปู่เอง”
ที่โคราช จับเณรน้อย ๒ องค์สึก แหม! ไอ้นี่มันร้ายจริงๆ เราดักทางหน้าประตู ประตูหน้า มันออกประตูหลัง ครั้งหลังสุดนี่ มันทนไม่ไหว กลางคืนมามันเอาสำลีใส่เป็นที่ๆๆ
เอาไฟจุด แล้วก็เป่าให้มันลอยไป มันไปติดกอไผ่อยู่ใกล้ ๆ กับบ้านเขาน่ะ ไฟมันก็ลุกโหมขึ้น พระแตกตื่นไปช่วยกันดับ
โอ๊ย! แบบนี้ แบบอัปรีย์ แบบนี้เอาไว้ไม่ได้ ประ เดี๋ยวมัน ลุกลามไปไหม้ชาวบ้านน่ะ ตายเลยเรา ไอ้ซนอย่างอื่นน่ะมันก็พอเลี้ยงได้ แต่ซนแบบฉิบหายนี่มันไม่ไหวแล้ว
|