รู้จัก “รถถัง” หนุ่มที่ฮอตสุดในเมืองไทยชั่วโมงนี้!
หลังจากคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. เข้ามาจัดการปัญหาความวุ่นวายภายในบ้านเมือง พร้อมประกาศถึงจุดยืนที่ชัดเจนในการเข้ามาบริหารจัดการประเทศ ซึ่งใครจะมองการกระทำครั้งนี้อย่างไรก็สุดแล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ คือภาพลักษณ์ของทหารในสายตาประชาชนดูดีขึ้นมาก รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้หลายๆ คนว่าประเทศชาติที่บอบช้ำมาหนักกำลังจะได้รับการเยียวยาเสียที
เมื่อผู้คนทั้งบ้านทั้งเมืองกำลังตื่นเต้นกับทหาร และรถถังที่กระจายไปตามสถานที่สำคัญเพื่อควบคุมสถานการณ์ บ้างก็เข้าไปขอถ่ายรูปจนกลายเป็นภาพชินตา ดังนั้น เราน่าจะมาทำความรู้จักกับพาหนะที่กำลังเป็นพระเอกของชาติยามนี้กันหน่อย โดยเราพบบทความดีๆ จากเว็บไซต์พันทิป โดยคุณ Skyman มาโพสข้อมูลเอาไว้ จึงขออนุญาตนำมาบอกต่อๆ กัน
รถถัง M41
คุณ Skyman บอกว่า รุ่นแรก คุณปู่ “M41” นี้อยู่คู่กับกองทัพบกไทยมาเกือบ 50 ปี สร้างชื่อในสงครามเกาหลี M41 ได้รับการจัดหาจากกองทัพบกไทยจำนวนรวม 200 คนในช่วงสงครามเย็นที่เรามีปัญหากับเวียดนามครับ เนื่องจากมันมีขนาดที่เล็กพอดี แต่มีประสิทธิภาพในการรบที่สูง M41 ติดปืนใหญ่รถถังขนาด 76 mm. ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีอีกบางประเทศที่ประจำการด้วย M41 อยู่นะครับ แต่ส่วนใหญ่ได้รับการ upgrade ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ติดเกราะหนาขึ้น แต่ข้อเสียของ M41 ก็คือมันเป็นเครื่องยนต์เบนซินครับ กินน้ำมันมากและเสียงดังมากครับ
ทั้งนี้ M41 มีบทบาทกับการเมืองไทยและสงครามในไทยมาโดยตลอด
M41 นั้นผลิตจากสหรัฐอเมริกาในช้วงปี 1950 มีขนาดความยาว 8.2 เมตร กว้าง 3.2 เมตร สูง 2.71 เมตร และหนัก 23.5 ตัน เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ กำลังสุงสุด 500 แรงม้า ช่วงล่าง ทอร์ชั่น บาร์ ความเร็วสูงสุดบนถนน 72 กม./ชม. ขับเคลื่อนได้ระยะทางไกลสุดต่อน้ำมันเต็มถัง 161 กม.
M48A5 (ประจำการ พ.ศ. 2522)
หลังจากเราจัดหา M41 มาได้ซักพัก และหลังจากจัดหา Scorpion ได้ปีเดียว กองทัพบกก็จัดซื้อ “M48A5” เข้าประจำการครับ M48A5 มีความแม่นยำสูง โดยมีอัตราการยิงถูกในนัดแรกสูงที่สุดในสมัยนั้น M48A5 ติดปืนใหญ่ขนาด 105 mm. เกราะหนาสุงสุดที่ด้านหน้า 120 mm. ทบ.ไทยมีประจำการ 105 คันครับ
M48A5 นั้นผลิตโดยสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1970 เป็นรุ่นที่ได้รับการอัพเกรดมาจากรุ่น M48s ซึ่งเริ่มผลิตตั้งแต่ปี 1952-1959 ซึ่งสืบสายพันธ์มาจากรุ่น M46 และ M47 มีขนาดความยาว 6.4 เมตร กว้าง 3.6 เมตร สูง 3.1 เมตร และหนัก 48 ตัน มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 12 สูบ และดีเซล 12 สูบ 690 แรงม้า ช่วงล่าง ทอร์ชั่น บาร์ ความเร็วสูงสุดบนถนน 48 กม./ชม. ขับเคลื่อนได้ระยะทางไกลสุดต่อน้ำมันเต็มถัง 415 กม.
Commando Stingray (ประจำการ พ.ศ. 2532)
เราคงจะไปหา “Stingray” ที่ประเทศอื่นไม่ได้ เพราะรถถังชนิดนี้มีประจำการที่ประเทศเราประเทศเดียว (แม้แต่อเมริกาผู้ผลิตก็ไม่ได้ประจำการ) เพราะบริษัทผู้ผลิตประสบความสำเร็จในการขายให้เราแค่ประเทศเดียว 100 กว่าคันนิดๆ
Stingray ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 105 mm. พร้อมด้วยระบบเล็งเป้าด้วยเลเซอร์ ระบบ stabilizer และอีกหลายอย่าง วิธีสังเกต Stingray ได้ง่ายๆ ก็คือดูตรงป้อมปืนที่เป็นเอกลักษณ์ของมันนั่นแหละครับ
M60A1/A3 TTS (A1 ประจำการ พ.ศ. 2534 ,A3 ประจำการ พ.ศ. 2539)
เท่าที่ดูข่าวยังไม่เห็น “M60” ในกรุงเทพฯ ครับ คาดว่าอาจจะอยู่ที่อื่น
M60 ที่เราจัดหาเป็นมือสองจากสหรัฐฯ ครับ ผู้รู้หลายท่านทั้งในและต่างประเทศให้ความเห็นว่า M60 เหมาะสมที่สุดในภูมิประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ดินค่อนข้างอ่อน ถ้าเรารถถังหนักๆ และมีแรงกดต่อพื้นที่มากๆ มีหวังติดหล่ม ทำให้ขาดความคล่องตัวไปเยอะครับ
M60 ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 105 mm. โดย M60A3 จะพิเศษกว่าตัว A1 ก็ตรงที่มันมี Tank thermal Sights ฉะนั้น บางทีเราก็เรียก A3 ของเราว่า TTS เช่นกัน TTS ซึ่งเป็นระบบสร้างภาพจากความร้อนครับไทยมีประจำการรวมๆ กันแล้วประมาณ 178 คันครับ
M60 นั้นเป็นรถถังที่พัฒนาโดยใช้พื้นฐานจากรุ่น M48 ในช่วงปี 1959 ใหม่หมด ทั้งเครื่องยนต์และยุทโธปกรณ์ มีขนาดความยาว 6.9 เมตร กว้าง 3.6 เมตร สูง 3.3 เมตร หนัก 52 ตัน เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบชาร์จเจอร์ 12 สูบ ให้กำลังสูงสุด 750 แรงม้า ช่วงล่าง ทอร์ชั่น บาร์ ความเร็วสูงสุดบนถนน 48 กม./ชม. ขับเคลื่อนได้ระยะทางไกลสุดต่อน้ำมันเต็มถัง 450 กม.
FV 101 CVR(T) Scorpion (ประจำการ พ.ศ. 2521)
“Scorpion” เป็นรถถังอังกฤษครับ ตอนจัดซื้อก็ถูกวิจารณ์อย่างมากว่าจะเข้ากับระบบเราที่เป็นอเมริกันได้หรือเปล่า แต่ไปๆ มาๆ Scorpion ก็มีส่วนร่วมในหลายๆ สมรภูมิทำเอาข้าศึกเละตุ้มเปะมาแล้ว Scorpion
ติดปืนขนาด ที่ดูรูปร่างแล้วตลกๆ (แต่คนโดนยิงตลกไม่ออก) ที่จริงเค้าจัดให้เป็นส่วนหนึ่งของรถประเภท “รถรบลาดตระเวนสายพาน” หรือ Combat Vehicle Reconnaissance (Tracked): (CVR(T)) Scorpion ติดปืนขนาด 76 mm. ครับ ไทยมีประจำการประมาณ 150 คัน
Type-69 II (ประจำการ พ.ศ. 2530)
Type-69 II นั้นเราจัดหาจากจีนในช่วงที่ภัยคุกคามจากเวียดนามพุ่งสูงครับ ช่วงนั้นเราเปิดสัมพันธทางการฑูตกับจีน และขอให้หยุดสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (เวียดนามตอนนั้นเป็นสายโซเวียต) ประกอบกับเราต้องการจัดซื้อรถถังอย่างเร่งด่วนที่สุด เราจึงขอซื้อรถถัง Type-69 II มาจากจีน จีนก็ขายให้ราคาถูกแสนถูก
(ประมาณ 5% - 10% ของราคาจริง) แต่เป็นรถถังที่เคยประจำการในจีนมาบ้างแล้ว ซึ่งการที่เราได้รับสุดยอดรถถังในกองทัพปลดปล่อยในขณะนั้นก็ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการเป็นพันธมิตรระหว่างไทยและจีน
“Type-69 II” เป้นรุ่นปรับปรุงมาจาก Type-69 ธรรมดาครับ (ซึ่งจีนก๊อบมาจาก T-55 ของโซเวียตอีกทีนึง) รุ่น II นี้ติดตั้งปืนใหญ่ขนาด 100 mm. มีระบบ stabilizer ทั้งแนวตั้งและแนวนอนเพื่อรักษาระดับของปืน มีระบบเล็งด้วยเลเซอร์บนตัวปืนอีก สำหรับ Type-69 II ของไทยนั้นติดตั้งปืน 12.7 mm Browning ของสหรัฐฯ แทน 12.7 ของจีนครับ
Type-69 II ทั้ง 100 กว่าคันเคยมีข่าวเวลาที่มืดมนอยู่ช่วงหนึ่งครับ คือวิ่งไม่ได้เลยซักคัน แต่ช่วงหลังประมาณปี 46 -47 (จำปีไม่ได้) ก็มีข่าวว่าจีนก็รับรถถัง (น่าจะ) ส่วนหนึ่งไปซ่อมคืนสภาพให้เองในมูลค่า 10 ล้านเหรียญแบบเราไม่ต้องจ่ายซักกะบาท
Type 69 II นั้นผลิตจากประเทศจีน ในช่วงปี 1982 โดยเป็นรุ่นที่ถอดแบบมาจากรถถังรุ่น T-54/55 ของรัสเซีย มีขนาดความยาว 6.20 เมตร กว้าง 3.25 เมตร สูง 2.80 เมตร หนัก 36.5 ตัน เครื่องยนต์ดีเซล กำลังสูงสุด 580 แรงม้า ช่วงล่าง ทอร์ชั่นบาร์ ความเร็วสูงสุดบนถนน 50 กม./ชม. ขับเคลื่อนได้ระยะทางไกลสุดต่อน้ำมันเต็มถัง 440 กม.
HUMVEE ติดปืนกล .50 มม.
นอกจากรถถังแล้ว ยังมียุทธยานยนต์อื่นๆ อีก เช่น...HMMWV หรือ HUMVEE ติดปืนกล .50 มม. รถเกราะล้อยาง V-150 มีแบบติดป้อมปืนหรือปืนกลด้วยครับและรถเกราะ M113 A1 และ A3 มีทั้งแบบติดปืนกลแบบในภาพ และติด ปตอ.วัลแวน ติดจรวดต่อสู้รถถัง TOW
รถเกราะล้อยาง V-150 มีแบบติดป้อมปืนหรือปืนกลด้วยครับ
|