บ้านเมืองเรานี่ คอมมิวนิสต์เต็มบ้านเต็มเมืองเรายังปราบอยู่ บารมีของประเทศนี่มันเท่าไร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยรับสั่งถามหลวงปู่ฝั้นว่า "ต่อไปนี้บ้านเมืองไทยเราจะเป็นอย่างไร" "ไม่เป็นไรหรอก มหาบพิตร บ้านเมืองเราเป็นเมืองพุทธศาสนา มีศีลมีธรรม ใครมาเบียดเบียนเมืองไทย ธรณีจะสูบมัน" เพราะฉะนั้นในฐานะที่ท่านทั้งหลายเป็นผู้มีส่วนรับผิดชอบความเสื่อมความเจริญของบ้านของเมือง ขอได้โปรดมั่นใจว่าเราจะต้องอบรมกุลบุตรของเราให้มีวิชาความรู้ มีความสามารถในการที่จะรับมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษ สำหรับหลวงพ่อเองมั่นใจว่าประเทศไทยเราจะไม่ล่มจม สมัยที่เป็นเด็กนักเรียน เรียนประวัติศาสตร์ ครูท่านสอนว่า ทวีปเอเชียมี ๑๒ ประเทศ ตกเป็นเมืองขึ้นของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยังเป็นเอกราชอยู่ ๓ ประเทศ คือ จีน ไทย ญี่ปุ่น สมัยนั้นประเทศไทยมีพลเมือง ๑๐ กว่าล้าน ญี่ปุ่นมีร้อยล้าน จีนมีเป็นพันล้าน แต่ไทยมีพลเมือง ๑๐ กว่าล้านยังอุตส่าห์เป็นเอกราชอยู่ได้ จะว่าไทยเราไม่เก่งอย่างไร
เพราะฉะนั้นไทยเราต้องเก่งตลอดเวลา เก่งมาแล้วก็ต้องเก่งต่อไป เพราะฉะนั้นไม่ต้องหวั่นวิตก ขอให้เรามีความจริงใจ อดทน อย่างเดียวเท่านั้น
เราสามารถปฏิบัติสมาธิไปกับงานต่าง ๆ โดยเอางานเป็นอารมณ์ กำหนดสติให้รู้ตามการยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด การปฏิบัติแบบนี้ การที่จิตจะสงบวูบวาบลงไปเป็นสมาธิ สว่างไสว อาจจะช้า แต่ว่าเราได้พลังงานทางสติเป็นตัวเด่น เมื่อเรามีพลังงานทางสติเป็นตัวเด่น แม้จิตเราไม่สงบละเอียดลงไป แต่เราจะมีสติสัมปชัญญะรู้เท่าทันเหตุกาณ์หรือสถานการณ์แวดล้อมของเราดีขึ้น
เพราะฉะนั้นใครจะสร้างพลังจิตของตนเอง ทำจิตของตนเองให้มีพลังงาน เราต้องทำจิตของเราให้มีสิ่งรู้ สติมีสิ่งระลึก จะเป็นอะไรก็ได้
พยายามฝึกจิตของเราให้มีสติปัญญา ยอมรับสภาพความจริงที่เราเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ คนที่คิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะขาดสติ ขาดสมาธิ ขาดปัญญา ไม่ยอมรับสภาพความจริง คนที่ไม่มีสติปัญญา ยากที่จะรับความจริงได้ จิตที่ยอมรับสภาพความจริงได้ ต้องเป็น จิตที่มีความมั่นคง มีสติสัมปชัญญะ มีปัญญา